ข่าวประชาสัมพันธ์

DKSH ร่วมกับ ฮาสเทน ไบโอฟาร์มาซูติคอล ผนึกกำลังเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในประเทศไทย

DKSH ร่วมกับ ฮาสเทน ไบโอฟาร์มาซูติคอล ผนึกกำลังเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในประเทศไทย

DKSH ได้รับความไว้วางใจจาก ฮาสเทน ไบโอฟาร์มาซูติคอล บริษัทนวัตกรรมชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำจากประเทศจีน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคเรื้อรังและการดูแลผู้ป่วยวิกฤต เพื่อร่วมกันขยายโอกาสและสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้กับฮาสเทนในภูมิภาคเอเชีย ความร่วมมือในครั้งนี้เริ่มจากตลาดหลักในประเทศไทยพร้อมความมุ่งหวังให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาที่มีคุณภาพสำหรับโรคเรื้อรัง อาทิ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น

 

กรุงเทพฯ 26 สิงหาคม 2567 หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านโซลูชันการดูแลสุขภาพและผู้นำด้านการขยายตลาดสำหรับบริษัทผู้ผลิตเวชภัณฑ์ยา บริษัทผู้ผลิตยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (OTC) ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และเครื่องมือแพทย์  ได้ลงนามในข้อตกลงพิเศษร่วมกับ เอชพี บิดโค 2 จำกัด (HP Bidco 2 Limited) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ฮาสเทน ไบโอฟาร์มาซูติคอล (Hasten Biopharmaceutical Co., Ltd.) ในการขยายตลาดในประเทศไทย ภายใต้ข้อตกลงนี้ DKSH จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของฮาสเทนให้ครอบคลุมทั้งในโรงพยาบาล คลินิก และร้านขายยา ผ่านบริการการกระจายสินค้า โลจิสติกส์ การตลาดและการขาย

 

ฮาสเทน มีพันธกิจสำคัญในการสร้างความเติบโตทางธุรกิจเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงสามารถเข้าถึงยาในกลุ่ม โรคเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤตได้มากขึ้น เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทเป็นผู้รับอนุญาตผลิต หรือนำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักรและได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จำนวน 14 รายการจากเซลล์เทรียน (Celltrion) ใน 8 ตลาด รวมถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

 

จากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยด้วยการตรวจร่างกาย โดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในปี 2564 พบว่าคนไทยประมาณ 14 ล้านคน มีภาวะความดันโลหิตสูง[1]  ในขณะที่ กรมควบคุมโรค ระบุว่ามีผู้ป่วยโรคเบาหวานรายใหม่ประมาณ 300,000 รายในประเทศไทยในปี 2565[2] ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงเป็นสองเท่าจากปี 2564 สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในการเข้าถึงยาคุณภาพสูงที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อดูแลผู้ป่วยในกลุ่มโรคเหล่านี้

 

แฮนสัน เจิ้ง รองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายความเป็นเลิศทางการค้า (Hanson Zheng, Senior Vice President, Head of Commercial Excellence)  บริษัท ฮาสเทน ไบโอฟาร์มาซูติคอล จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ DKSH ในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ทางการรักษาที่ดีขึ้น  พร้อมด้วยโซลูชันการดูแลสุขภาพที่ก้าวหน้าเพื่อรองรับการให้บริการของบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ นอกจากนี้ การร่วมงานกับ DKSH ยังช่วยให้เรามุ่งเน้นไปที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับกลุ่มยาของเราได้ เพื่อเดินหน้าไปสู่การเพิ่มศักยภาพด้านการวิจัยและการผลิตอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุด เรามีความเชื่อมั่นในการทำงานของ DKSH ที่มีความเชี่ยวชาญและการทำงานที่มีประสิทธิภาพ การันตีได้จากผลงานที่ DKSH ช่วยสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทต่างๆ ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว”

 

แพทริค แกรนเด รองประธานฝ่ายบริหาร หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮาสเทน เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและมีศักยภาพในการเติบโตสูง การที่ DKSH ได้รับเลือกให้เป็นพันธมิตรสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญของเราในการสร้างแบรนด์ที่มีความรู้ความเข้าใจในแต่ละกลุ่มโรค ที่ DKSH เรามีแพลตฟอร์มการให้บริการแบบบูรณาการที่เป็นเลิศ ซึ่งครอบคลุมถึงความเชี่ยวชาญในโรคต่างๆ อาทิ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต มะเร็งวิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยา ประสาทวิทยาศาสตร์-อาการปวด โรคผิวหนัง เวชภัณฑ์ยา จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (OTC) ผ่านเครือข่ายที่กว้างขวาง ด้วยข้อมูลเชิงลึกและความสามารถด้านการจัดจำหน่าย การตลาดทางการแพทย์ โซลูชันสำหรับผู้ป่วย และการตลาดดิจิทัล ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของ DKSH คือ การเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยในประเทศไทยให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของฮาสเทนได้ในวงกว้าง" 

 

สำหรับ DKSH ประเทศไทย เรามีความภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ครบวงจรอย่างแท้จริง ผ่านการเชื่อมโยงธุรกิจบริการด้านสุขภาพทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ซึ่งความร่วมมือกับฮาสเทนในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อค่านิยมและวิสัยทัศน์ของเราในการส่งมอบบริการด้านการดูแลสุขภาพที่เหนือระดับ” แพทริค แกรนเด กล่าวเสริม

 

[1] Thailand: Improving hypertension care cascade with more than 60% control rate through innovation (who.int)

[2] https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1503020231127092424.pdf